หวาย (Calamoideae)
หนึ่งในประเภทของพืชที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ
ผลิตภัณฑ์ประเภทที่ทำจากหวาย ในประเทศไทยมีหวายอยู่กี่สกุล และชนิดใดที่นิยมนำมาใช้ทำ
ผลิตภัณฑ์
ต้นหวาย เป็นชื่อพืชในวงศ์หมากและหวาย หรือวงศ์ Palmae (วงศ์ปาล์ม) วงศ์ย่อย
Calamoideae (วงศ์หวาย) ซึ่งส่วนมากมีลำต้นยาวเป็นเถาเลื้อย ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก
มักมีหนามที่กาบใบ ก้านใบ แกนใบ ผลเป็นเกล็ด เมล็ดขรุขระไม่เรียบ มีเยื่อนุ่มหุ้มหวายที่พบ
ในประเทศไทยมี ๗ สกุล ได้แก่
๑. สกุลหวายตะค้า
มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ส่วนใหญ่ไม่มีแส้หนาม
ที่ปลายใบเช่น หวายขี้ผึ้งหวายตะค้าทอง หวายเล็ก หวายกำพวน
๒. สกุลหวายพาลี
มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ปลายใบมีแส้หนาม ได้แก่
หวายพาลีใบใหญ่และหวายพาลีใบเล็ก
๓. สกุลหวายพน
มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ปลายใบมีแส้หนามสำหรับ
ใช้เกาะต้นไม้อื่นเพื่อพยุงลำต้น เช่น หวายขี้เป็ด หวายพนขนหนอน
๔. สกุลหวายเดา
มีลักษณะเด่น คือ ตามข้อของลำหวายมีตาขนาดใหญ่ มักแตกกิ่งไปตามเรือนยอด
ปลายใบมีแส้หนามเช่น หวายเดาใหญ่ หวายกุ้ง
๕. สกุลหวายช้าง
มีลักษณะเด่น คือ กาบใบมีเกล็ดสีน้ำตาล และมีหนามขนาดใหญ่เรียงเป็นวงคล้ายหวี
ปลายใบมีแส้หนาม ได้แก่ หวายช้าง
๖. สกุลหวายกำพด
มีลักษณะเด่น คือ ออกดอกเป็นผลครั้งเดียวแล้วตายไป รอบข้อของลำต้นมีรากหรือ
ตุ่มของรากเช่น หวายใหญ่ หวายกำพด
๗. สกุลหวายแดง
มีลักษณะเด่น คือ ผิวของลำหวายเป็นสีมว่งแดง ออกดอกเป็นผลครั้งเดียวแล้วตายไป
ได้แก่ หวายกุ้ง หวายแดง
แม้ว่าในประเทศไทยจะมีหวายหลายชนิด แต่มีเพียงหวายขี้ผึ้ง หวายตะค้าทอง หวายเล็ก
หวายโป่ง หวายกำพวนหวายขี้เป็ด หวายพนขนหนอน ที่นิยมนำมาทำเครื่องจักสานหรือเครื่องมือ
เครื่องใช้ เพราะเนื้อและผิวหวายมีลักษณะสวยงามเหนียวทนทาน.